โปรดกดตามลิงก์
https://docs.google.com/file/d/0B1960KkIJu28TFBiNjZJZVlSa1k/edit?usp=docslist_api
วันพุธที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2558
แนวทางการเรียนรู้วิชาจินตทัศน์ ปี ๕๘
แนวทางการเรียนรู้วิชาจินตทัศน์
ปีการศึกษา ๒๕๕๘
บทนำ
ความหมายของสติปัญญานั้นมีได้หลายความหมาย แต่ถ้าเรามุ่งเน้นการพัฒนาการเรียนรู้ของมนุษย์
เราจะค้นพบความหมายของคำว่า สติปัญญา ที่หมายถึง ความสามารถที่จะได้รับความรู้และความเข้าใจ รวมไปถึงความสามารถในการนำความรู้และความเข้าใจนั้นไปใช้ในสถานการณ์ต่างๆกันได้ ความสามารถนี้ทำให้บุคคลแต่ละคนสามารถจัดการกับสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นได้
ดังนั้น การรับรู้ควรจะหมายถึง ความรู้ ความเข้าใจ และความคิด ความสามารถในการรับรู้ จะสามารถบ่งบอกถึงขีดจำกัดในการทำความเข้าใจความรู้ ถ้าเราพัฒนาความสามารถในการรับรู้ของผู้เรียนให้มากขึ้นก็เท่ากับเราพัฒนาขีดความสามารถในการคิดได้มากขึ้นเช่นกัน
มีการกล่าวถึงทฤษฎีของการศึกษาเรื่อง การพัฒนาสติปัญญา อยู่สองทฤษฎีที่คัดค้านกันว่า สติปัญญานั้นติดตัวมาตั้งแต่เกิดและไม่สามารถพัฒนาได้ แต่อีกทฤษฎีก็คัดค้านว่า สติปัญญาสามารถพัฒนาได้ แต่ทั้งสองแนวคิดมีส่วนที่เหมือนกันตรงที่ว่า มนุษย์สามารถเปลี่ยนแปลงทัศนคติได้ ดังนั้นถ้าผู้เรียนถูกปลูกฝังทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้ได้ด้วยตนเองอยู่เสมอ ผู้เรียนก็จะสามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต
จินตทัศน์จึงมีเป้าหมายที่การพัฒนาการเรียนรู้และการทำความเข้าใจ (cognitive reasoning) ผ่านกระบวนการทำการบ้านเชิงโครงงานฯ และมีเป้าหมายที่จะมุ่งเน้นพัฒนาการรับรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการทำความเข้าใจ โดยสามารถแบ่งเป็นออกเป็นสองประเภทใหญ่ๆได้แก่การรับรู้เชิงรูปร่าง(perception) และการรับรู้เชิงเหตุผล(logical reasoning) ด้วยแบบฝึกฝน การที่ผู้เรียนได้หมั่นทำแบบฝึกฝนตามพัฒนาการตามวัยจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของผู้เรียนในการคิดวิเคราะห์ รวมทั้งยังสามารถพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ได้อีกด้วย
การพัฒนาการเรียนรู้และความเข้าใจคือ อะไร ?
การพัฒนาการเรียนรู้และความเข้าใจ คือ การที่ผู้เรียนพัฒนาความสามารถในการเรียนรู้อย่างเป็นขั้นตอนตามพัฒนการทางวัยที่เหมาะสมจนเกิดเป็นทักษะทางปัญญาที่ผู้เรียนสามารถนำไปใช้ในอนาคตต่อไปได้ ขั้นตอนแรกของการเรียนรู้เริ่มด้วยการรับความรู้จากชุดข้อมูลด้วยการจดจำข้อมูลสำคัญนั้นให้ได้ก่อน ขั้นที่สองคือ การทำความเข้าใจจนสามารถอธิบายถึงความสำคัญนั้นได้อย่างถูกต้องด้วยภาษาของตนเอง ซึ่งแสดงถึงความเข้าใจที่ลึกซึ้งมีความแตกต่างตามความถนัดของผู้เรียน ขั้นที่สามผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้ด้วยการอธิบายสถานการณ์ตัวอย่างของชุดข้อมูลนั้นได้อย่างลึกซึ้ง
ขั้นที่สี่ ผู้เรียนจะคิดวิคราะห์ เปรียบเทียบ จนสามารถอธิบายข้อดี ข้อเสีย หรือจุดที่น่าสนใจของความรู้นั้นได้โดยการอธิบายได้อย่างลึกซึ้งแตกต่างกัน ถ้าขั้นที่สองของการทำความเข้าใจมีความลึกซึ้งเพียงพอเมื่อคิดวิเคราะห์ในขั้นที่สี่นี้ผู้เรียนก็สามารถอธิบายได้อย่างลึกซึ้งเช่นกัน ในขั้นนี้ค่อนข้างใช้เวลาและต้องการการชี้แนะจากครูผู้สอน รวมทั้งการเลือกใช้เครื่องมือช่วยคิดที่หมาะสม ขั้นที่ห้า คือ การตัดสินใจเลือกข้อมูลความรู้ที่ผ่านการคิดวิคราะห์แล้ว ผู้เรียนสามารถอธิบายเหตุผลที่ตัดสินใจเลือกได้อย่างสมเหตุสมผล ส่วนขั้นที่หก คือ การสังเคราะห์ต่อยอดจากข้อมูลความรู้ที่เลือกมานี้เพื่อแก้ปัญหาของโจทย์ในโครงงานสังเคราะห์ต่อยอดอย่างมีความเป็นไปได้และมีความคิดสร้างสรรค์
ผู้เรียนจะฝึกฝนขั้นตอนการพัฒนาทักษะทางปัญญาด้วยกระบวนการทำโครงงานประจำภาค โดยเริ่มต้นจากการทำการบ้านเชิงโครงงานฯ ทั้งสามข้อ การเรียงลำดับเนื้อหาในแต่ละข้อจะคำนึงถึงความสัมพันธ์กับเนื้อหาในวิชาประยุกต์ ส่วนรายละเอียดของโจทย์จะคำนึงถึงขั้นตอนการเรียนรู้ทั้งหกขั้นเพื่อเป็นการพัฒนาทักษะทางปัญญา และสามารถนำไปสังเคราะห์ต่อยอดกับโครงงานต่อไปได้
การเลือกทักษะที่สำคัญเพื่อใช้ในการทำการบ้านเชิงโครงงาน เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยคิดนั้น ขึ้นอยู่กับเนื้อหาสาระและทักษะทางปัญญาแต่ละภาคเรียนที่สอดคล้องกับพัฒนาการตามวัยในส่วนของวิชาจินตทัศน์ผู้เรียนจะได้ฝึกฝนการคิดและวิเคราะห์ผ่านเครื่องมือช่วยคิดที่สามารถนำไปใช้กับการบ้านเชิงโครงงานฯและโครงงานประจำภาค รวมทั้งฝึกฝนทักษะการรับรู้เพื่อทำความใจ ที่ส่งเสริมทักษะการการคิดและวิเคราะห์
การพัฒนาการรับรู้ คือ อะไร?
การพัฒนาการรับรู้ คือ การที่ผู้เรียนฝึกฝนพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรับรู้ เมื่อการรับรู้เพิ่มขึ้น ความสามารถในการทำความเข้าใจก็จะเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อการคิดวิเคราะห์ได้ดีขึ้น การรับรู้นี้ยังมีผลต่อการพัฒนาความสามารถทางด้านมิติสัมพันธ์อีกด้วย ซึ่งมีความจำเป็นในการประกอบอาชีพในอนาคต เช่น แพทย์ วิศวกร สถาปนิก เป็นต้น
การรับรู้สามารถแบ่งออกเป็นสองประเภท คือ การรับรู้เชิงรูปทรงและการรับรู้เชิงเหตุผล โดยฝึกฝนผ่านแบบฝึกตามพัฒนาการตามวัยในแต่ละชั้นเรียน
การับรู้เชิงรูปร่าง จะเป็นแบบฝึกที่กี่ยวกับการฝึกมองและทำความเข้าใจ เรื่องของภาพและพื้น การจัดระเบียบของภาพในการมองของมนุษย์ การมองหาแบบแผนและความคงที่ในภาพ เพื่อให้ใกล้เคียงกับประสบการณ์ของมนุษย์เพื่อให้เกิดความเข้าใจในภาพนั้นๆได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง เป็นการพัฒนาหน่วยคิดจินตภาพในส่วนสมองซีกขวาของมนุษย์ที่เป็นสมรรถนะในส่วนจินตนาการ สามารถพัฒนาการคิดนอกกรอบ การคิดแนวข้างและความคิดสร้างสรรค์ได้อีกด้วย
การรับรู้เชิงเหตุผล จะเป็นแบบฝึกที่เก่ียวกับการหาเหตุผลเชิงตรรกะในภาพหรือตัวอักษร เพื่อค้นหาคำตอบที่ซ่อนอยู่ในโจทย์นั้น การรับรู้เชิงเหตุผลมีการจัดเรียงลำดับความซับซ้อนตามวัยเพื่อเป็นการฝึกฝนการคิดหาเหตุผลตั้งแต่ตรรกะพื้นฐาน จนไปถึงชั้นสูง รวมทั้งแบบฝึกแบบเมตริกซ์ คือ การค้นหาเหตุผลที่ซ่อนอยู่ช่องสี่เหลี่ยม การรับรู้เชิงเหตุผลมีประโยชน์มากต่อการพัฒนาหน่วยคิดมโนทัศน์ส่วนสมองซ้ายที่เป็นสมรรถนะในการแก้ปัญหาที่ใช้เหตุผล
ปีการศึกษา ๒๕๕๘
บทนำ
ความหมายของสติปัญญานั้นมีได้หลายความหมาย แต่ถ้าเรามุ่งเน้นการพัฒนาการเรียนรู้ของมนุษย์
เราจะค้นพบความหมายของคำว่า สติปัญญา ที่หมายถึง ความสามารถที่จะได้รับความรู้และความเข้าใจ รวมไปถึงความสามารถในการนำความรู้และความเข้าใจนั้นไปใช้ในสถานการณ์ต่างๆกันได้ ความสามารถนี้ทำให้บุคคลแต่ละคนสามารถจัดการกับสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นได้
ดังนั้น การรับรู้ควรจะหมายถึง ความรู้ ความเข้าใจ และความคิด ความสามารถในการรับรู้ จะสามารถบ่งบอกถึงขีดจำกัดในการทำความเข้าใจความรู้ ถ้าเราพัฒนาความสามารถในการรับรู้ของผู้เรียนให้มากขึ้นก็เท่ากับเราพัฒนาขีดความสามารถในการคิดได้มากขึ้นเช่นกัน
มีการกล่าวถึงทฤษฎีของการศึกษาเรื่อง การพัฒนาสติปัญญา อยู่สองทฤษฎีที่คัดค้านกันว่า สติปัญญานั้นติดตัวมาตั้งแต่เกิดและไม่สามารถพัฒนาได้ แต่อีกทฤษฎีก็คัดค้านว่า สติปัญญาสามารถพัฒนาได้ แต่ทั้งสองแนวคิดมีส่วนที่เหมือนกันตรงที่ว่า มนุษย์สามารถเปลี่ยนแปลงทัศนคติได้ ดังนั้นถ้าผู้เรียนถูกปลูกฝังทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้ได้ด้วยตนเองอยู่เสมอ ผู้เรียนก็จะสามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต
จินตทัศน์จึงมีเป้าหมายที่การพัฒนาการเรียนรู้และการทำความเข้าใจ (cognitive reasoning) ผ่านกระบวนการทำการบ้านเชิงโครงงานฯ และมีเป้าหมายที่จะมุ่งเน้นพัฒนาการรับรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการทำความเข้าใจ โดยสามารถแบ่งเป็นออกเป็นสองประเภทใหญ่ๆได้แก่การรับรู้เชิงรูปร่าง(perception) และการรับรู้เชิงเหตุผล(logical reasoning) ด้วยแบบฝึกฝน การที่ผู้เรียนได้หมั่นทำแบบฝึกฝนตามพัฒนาการตามวัยจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของผู้เรียนในการคิดวิเคราะห์ รวมทั้งยังสามารถพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ได้อีกด้วย
การพัฒนาการเรียนรู้และความเข้าใจคือ อะไร ?
การพัฒนาการเรียนรู้และความเข้าใจ คือ การที่ผู้เรียนพัฒนาความสามารถในการเรียนรู้อย่างเป็นขั้นตอนตามพัฒนการทางวัยที่เหมาะสมจนเกิดเป็นทักษะทางปัญญาที่ผู้เรียนสามารถนำไปใช้ในอนาคตต่อไปได้ ขั้นตอนแรกของการเรียนรู้เริ่มด้วยการรับความรู้จากชุดข้อมูลด้วยการจดจำข้อมูลสำคัญนั้นให้ได้ก่อน ขั้นที่สองคือ การทำความเข้าใจจนสามารถอธิบายถึงความสำคัญนั้นได้อย่างถูกต้องด้วยภาษาของตนเอง ซึ่งแสดงถึงความเข้าใจที่ลึกซึ้งมีความแตกต่างตามความถนัดของผู้เรียน ขั้นที่สามผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้ด้วยการอธิบายสถานการณ์ตัวอย่างของชุดข้อมูลนั้นได้อย่างลึกซึ้ง
ขั้นที่สี่ ผู้เรียนจะคิดวิคราะห์ เปรียบเทียบ จนสามารถอธิบายข้อดี ข้อเสีย หรือจุดที่น่าสนใจของความรู้นั้นได้โดยการอธิบายได้อย่างลึกซึ้งแตกต่างกัน ถ้าขั้นที่สองของการทำความเข้าใจมีความลึกซึ้งเพียงพอเมื่อคิดวิเคราะห์ในขั้นที่สี่นี้ผู้เรียนก็สามารถอธิบายได้อย่างลึกซึ้งเช่นกัน ในขั้นนี้ค่อนข้างใช้เวลาและต้องการการชี้แนะจากครูผู้สอน รวมทั้งการเลือกใช้เครื่องมือช่วยคิดที่หมาะสม ขั้นที่ห้า คือ การตัดสินใจเลือกข้อมูลความรู้ที่ผ่านการคิดวิคราะห์แล้ว ผู้เรียนสามารถอธิบายเหตุผลที่ตัดสินใจเลือกได้อย่างสมเหตุสมผล ส่วนขั้นที่หก คือ การสังเคราะห์ต่อยอดจากข้อมูลความรู้ที่เลือกมานี้เพื่อแก้ปัญหาของโจทย์ในโครงงานสังเคราะห์ต่อยอดอย่างมีความเป็นไปได้และมีความคิดสร้างสรรค์
ผู้เรียนจะฝึกฝนขั้นตอนการพัฒนาทักษะทางปัญญาด้วยกระบวนการทำโครงงานประจำภาค โดยเริ่มต้นจากการทำการบ้านเชิงโครงงานฯ ทั้งสามข้อ การเรียงลำดับเนื้อหาในแต่ละข้อจะคำนึงถึงความสัมพันธ์กับเนื้อหาในวิชาประยุกต์ ส่วนรายละเอียดของโจทย์จะคำนึงถึงขั้นตอนการเรียนรู้ทั้งหกขั้นเพื่อเป็นการพัฒนาทักษะทางปัญญา และสามารถนำไปสังเคราะห์ต่อยอดกับโครงงานต่อไปได้
การเลือกทักษะที่สำคัญเพื่อใช้ในการทำการบ้านเชิงโครงงาน เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยคิดนั้น ขึ้นอยู่กับเนื้อหาสาระและทักษะทางปัญญาแต่ละภาคเรียนที่สอดคล้องกับพัฒนาการตามวัยในส่วนของวิชาจินตทัศน์ผู้เรียนจะได้ฝึกฝนการคิดและวิเคราะห์ผ่านเครื่องมือช่วยคิดที่สามารถนำไปใช้กับการบ้านเชิงโครงงานฯและโครงงานประจำภาค รวมทั้งฝึกฝนทักษะการรับรู้เพื่อทำความใจ ที่ส่งเสริมทักษะการการคิดและวิเคราะห์
การพัฒนาการรับรู้ คือ อะไร?
การพัฒนาการรับรู้ คือ การที่ผู้เรียนฝึกฝนพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรับรู้ เมื่อการรับรู้เพิ่มขึ้น ความสามารถในการทำความเข้าใจก็จะเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อการคิดวิเคราะห์ได้ดีขึ้น การรับรู้นี้ยังมีผลต่อการพัฒนาความสามารถทางด้านมิติสัมพันธ์อีกด้วย ซึ่งมีความจำเป็นในการประกอบอาชีพในอนาคต เช่น แพทย์ วิศวกร สถาปนิก เป็นต้น
การรับรู้สามารถแบ่งออกเป็นสองประเภท คือ การรับรู้เชิงรูปทรงและการรับรู้เชิงเหตุผล โดยฝึกฝนผ่านแบบฝึกตามพัฒนาการตามวัยในแต่ละชั้นเรียน
การับรู้เชิงรูปร่าง จะเป็นแบบฝึกที่กี่ยวกับการฝึกมองและทำความเข้าใจ เรื่องของภาพและพื้น การจัดระเบียบของภาพในการมองของมนุษย์ การมองหาแบบแผนและความคงที่ในภาพ เพื่อให้ใกล้เคียงกับประสบการณ์ของมนุษย์เพื่อให้เกิดความเข้าใจในภาพนั้นๆได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง เป็นการพัฒนาหน่วยคิดจินตภาพในส่วนสมองซีกขวาของมนุษย์ที่เป็นสมรรถนะในส่วนจินตนาการ สามารถพัฒนาการคิดนอกกรอบ การคิดแนวข้างและความคิดสร้างสรรค์ได้อีกด้วย
การรับรู้เชิงเหตุผล จะเป็นแบบฝึกที่เก่ียวกับการหาเหตุผลเชิงตรรกะในภาพหรือตัวอักษร เพื่อค้นหาคำตอบที่ซ่อนอยู่ในโจทย์นั้น การรับรู้เชิงเหตุผลมีการจัดเรียงลำดับความซับซ้อนตามวัยเพื่อเป็นการฝึกฝนการคิดหาเหตุผลตั้งแต่ตรรกะพื้นฐาน จนไปถึงชั้นสูง รวมทั้งแบบฝึกแบบเมตริกซ์ คือ การค้นหาเหตุผลที่ซ่อนอยู่ช่องสี่เหลี่ยม การรับรู้เชิงเหตุผลมีประโยชน์มากต่อการพัฒนาหน่วยคิดมโนทัศน์ส่วนสมองซ้ายที่เป็นสมรรถนะในการแก้ปัญหาที่ใช้เหตุผล
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)